วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Week 1 เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน


เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน


สวัสดีค่ะทุกคนที่กำลังอ่านบล็อคของเราอยู่ เราชื่อเฟรน นี้เป็นบทความแรกของเราเราจะมาพูดถึงเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน

ในสมัยนี้เทคโนโลยีเป็นสิ่งหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญซึ่งมีผลต่อสังคม สภาพทางเศรษฐกิจเทคโนโลยีมีหลายรูปแบบมีทั้งเป็นประโยชน์และโทษเรามาเริ่มทำความรู้จักกับเทคโนโลยีสารสนเทศกันค่ะ
ก่อนอื่นเลยจะพูดถึงจุดกำเนิดของเทคโนโลยีสารสนเทศกัน

กำเนิดเทคโนโลยีสารสนเทศ

                  จุดกําเนิดของเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ ความต้องการในการที่จะสื่อสารกันเพราะอยู่คนละอําเภอคนละตําบลหรือคนละจังหวัดกันจึงคิดค้นหาวิธีที่จะติดต่อสื่อสารกัน โดยเริ่มจากการส่งจดหมายเพราะเมื่อมีการค้าเกิดขึ้นการที่จะติดต่อกันนั้นถือเป็นเรื่องสําคัญเลยก็ว่าได้อย่างที่กล่าวไว้ว่าได้เริ่มจากการส่งจดหมายกันจึงมีการคิดค้นวิธีที่จะติดต่อสื่อสารกันมากขึ้นหลายวิธีจึงทําให้เกิดพัฒนาการทางด้านนี้ ซึ่งจะมี หลายวิธีมากยิ่งขึ้น รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาทั้งกระนั้นก็ยังมีความต้องการที่จะติดต่อบุคคลที่อยู่คนล่ะประเทศกันเพื่อการค้าหรือด้วยเหตุต่างๆ จึงทําให้เกิดการคิดค้นการส่งสัญญาณไฟฟ้าและเปลี่ยนเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งสามารถใส่ทั้งคําพูดหรืออักษรส่งหาถึงกันได้โดยผ่านทางสายต่างๆและนี่ก็คือจุดเริ่มต้นและการพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศที่จะพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน
    ความหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ
        เทคโนโลยีสารสนเทศ ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Information Technology เรียกย่อๆว่า “IT”หรือ ไอที โดยมีคําที่เกี่ยวข้องอยู่ 2 คําคือ
                   เทคโนโลยี (Technology) หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ ความจริงเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาทําให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์เทคโนโลยีจึงเป็นวิธีการในการสร้างมูลค่าเพิ่มของสิ่งต่างๆให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น เช่น ทรายหรือซิลิกอน เป็นสารแร่ที่พบเห็นทั่วไปตามชายหาดหากนํามาสกัดด้วยเทคโนโลยีและใช้เทคนิควิธีการสร้างเป็นชิป(chip)สําหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆจะทําให้สารแร่ซิลิกอนนั้นมีคุณค่า และมูลค่าเพิ่มขึ้นได้อีกมาก
                  สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับความจริงของคน สัตว์สิ่งของทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม หากมีการจัดเก็บรวบรวม เรียกค้น และสื่อสารระหว่างกันนํามาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้สารสนเทศมีความหมายที่กว้างไกลซึ่งนักเรียนจะได้เรียนเพิ่มเติม
                        เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) 
หมายถึงการนําเทคโนโลยีด้านการสื่อสารและคอมพิวเตอร์มาใช้สร้างข้อมูลเพิ่มให้กับสารสนเทศ ทําให้สารสนเทศมีประโยชน์และใช้งานได้กว้างขวางมากขึ้น เทคโนโลยีสารสนเทศรวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆ ที่จะรวบรวมจัดเก็บใช้งาน ส่งต่อ หรือสื่อสารระหว่างกัน โดยใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เป็นสื่อหลัก
                  ทั้งนี้เทคโนโลยีสารสนเทศจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับเครื่องมือเครื่องใช้ในการจัดการสารสนเทศที่สําคัญได้แก่เทคโนโลยีการสื่อสาร คอมพิวเตอร์ สารสนเทศ ขั้นตอนวิธีการดาเนินการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์เกี่ยวข้องกับตัวข้อมูลเกี่ยวกับบุคลากรเกี่ยวข้องกับกรรมวิธีการดําเนินงาน เพื่อให้ข้อมูลเกิดประโยชน์สูงสุด
ลักษณะสารสนเทศที่ดี
เนื้อหา (Content)
  
·       ความสมบูรณ์ครอบคลุม (completeness)
·       ความสัมพันธ์กับเรื่อง (relevance)
·       ความถูกต้อง (accuracy)
·       ความเชื่อถือได้ (reliability)
·       การตรวจสอบได้ (verifiability)
รูปแบบ (Format)
                   ชัดเจน (clarity)
      ·  ระดับรายละเอียด (level of detail)
      ·       รูปแบบการนําเสนอ (presentation)
      ·       สื่อการนําเสนอ (media)
      ·       ความยืดหยุ่น (flexibility)
      ·       ประหยัด (economy)

เวลา (Time)
·       ความรวดเร็วและทันใช้ (timely)
·       การปรับปรุงให้ทันสมัย (up-to-date)
·       มีระยะเวลา (time period)
กระบวนการ (Process)
  • ·      ความสามารถในการเข้าถึง (accessibility)
  •  ·         การมีส่วนร่วม (participation)
  •  ·         การเชื่อมโยง (connectivity)


  ต่อไปเป็นประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศค่ะประโยชน์ของเทคโนโลยีมีมากกว่านี้แต่เราขอนำมายกตัวอย่างเท่านี้ก่อนนะคะ

     ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ
                   การกําเนิดของคอมพิวเตอร์เมื่อประมาณห้าสิบกว่าปีที่แล้ว เป็นก้าวสําคัญที่นําไปสู่ยุค สารสนเทศในช่วงแรกมีการนําเอาคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องคํานวณแต่ต่อมาได้มีความพยายามพัฒนาให้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สําคัญสําหรับการจัดการข้อมูลเมื่อเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ได้ก้าวหน้ามากขึ้นทําให้สามารถสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กลงแต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น สภาพการใช้งานจึงใช้งานกันอย่างแพร่หลายผลของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่และสังคมจึงมีมากมีการเรียนรู้และใช้สารสนเทศกันอย่างกว้างขวางผลของเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยรวมกล่าวได้ดังนี้
                         การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมือง มีการพัฒนาใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคมเพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น มีการประยุกต์มาใช้กับเครื่องอํานวยความสะดวกภายในบ้าน เช่น ใช้ควบคุมเครื่องปรับอากาศ ใช้ควบคุมระบบ ไฟฟ้าภายในบ้านเป็นต้น
                        สารสนเทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนําคอมพิวเตอร์และเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนรู้เช่น วีดิทัศน์ เครื่องฉายภาพคอมพิวเตอร์ช่วยสอน คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการศึกษา จัดตารางสอน คํานวณระดับคะแนน จัดชั้นเรียน ทํารายงานเพื่อให้ผู้บริหารได้ทราบถึงปัญหาและการแก้ปัญหาในโรงเรียนปัจจุบันมีการเรียนรู้การสอนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนมากขึ้น
                         เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติหลายอย่าง จําเป็นต้องใช้สารสนเทศเช่น การดูแลรักษาป่า จําเป็นต้องใช้ข้อมูล มีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมการติดตามข้อมูลสภาพอากาศการพยากรณ์อากาศ การจําลองรูปแบบสภาวะสิ่งแวดล้อม เพื่อปรับปรุงแก้ไขการเก็บรวมรวมข้อมูลคุณภาพน้ำในแม่น้ำต่างๆ การตรวจวัดมลภาวะ ตลอดจนการใช้ระบบการตรวจวัดระยะไกลมาช่วยที่เรียกว่าโทรมาตร เป็นต้น
            เทคโนโลยีสารสนเทศกับการป้องกันประเทศ กิจการทางด้านการทหาร มีการใช้เทคโนโลยีอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ลวนแต่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และระบบควบคุม มีการใช้ ระบบป้องกันภัย ระบบเฝ้าระวังที่มีคอมพิวเตอร์ควบคุมการทํางาน
                         การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม การแข่งขันทางด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจําเป็นต้องหาวิธีการในการผลิตให้ได้มาก ราคาถูกลงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เข้ามามีบทบาทมาก มีการใช้ขอมูลข่าวสารเพื่อการบริหาร และการจัดการ การดําเนินการและยังรวมไปถึง ้การให้บริการกับลูกค้า เพื่อให้ซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น
                            ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวตประจําวันบทบาทเหล่านีมีแนวโน้มที่สําคัญมากยิ่งขึ้นด้วยเหตุนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่จงควรเรียนรู้ขึ้นและเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อจะได้เป็นกําลังสําคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้ก้าวหน้าและเกิดประโยชน์ตอประเทศต่อไป

แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต
   การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในคริสต์ศตวรรษที่ 21 มีแนวโน้มที่จะพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้มีความสามารถใกล้เคียงกับมนุษย์เช่นการเข้าภาษาสื่อสารของมนุษย์โครงข่ายประสาทเทียมระบบจําลอง ระบบเสมือนจริงโดยพยายามนําไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้นลดข้อผิดพลาดและป้องกันไม่ให้นําไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องหรือผิดกฎหมาย
 แนวโน้มใน ด้านบวก
 1.การพัฒนาเครือข่ายคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงกันทั่วโลกก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมช่องทางการดําเนินธุรกิจเช่น การทําธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การผ่อนคลายด้วยการดูหนัง ฟังเพลง และบันเทิงต่างๆ เกมออนไลน์
 2. การพัฒนาให้คอมพิวเตอร์สามารถฟังและตอบเป็นภาษา พูดได้ อ่านตัวอักษรหรือลายมือเขียนได้ การแสดงผลของคอมพิวเตอร์ได้เสมือนจริง เป็นแบบสามมิติ และการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส เสมือนว่าได้อยู่ในที่นั่นจริง
 3. การพัฒนาระบบสารสนเทศ ฐานข้อมูล ฐานความรู้ เพื่อพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญและการจัดการความรู้ การศึกษาตามอัธยาศัยด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) การเรียนการสอนด้วยระบบโทรศึกษา (tele-education) การค้นคว้าหาความรู้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากห้องสมุดเสมือน(virtual library)
4.การพัฒนาเครือข่ายโทรคมนาคมระบบการสื่อสารผ่านเครือข่ายไร้สาย เครือข่ายดาวเทียม ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ทําให้สามารถค้นหาตําแหน่งได้อย่างแม่นยํา
5.การบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่โดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่ายการสื่อสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดําเนินการของภาครัฐที่เรียกว่ารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์(e-government) รวมทั้งระบบฐานข้อมูลประชาชน หรือ e-citizen
แนวโน้มใน ด้านลบ
1.ความผิดพลาดในการทํางานของระบบคอมพิวเตอร์ทั้งส่วนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่เกิดขึ้นจากการออกแบบและพัฒนาทําให้เกิดความเสียหายต่อระบบและสูญเสียค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหา
2. การละเมิดลิขสิทธิ์ของทรัพย์สินทางปัญญา การทําสําเนาและลอกเลียนแบบ

เราขอยกมาแค่นี้ก่อนน้าาาาาคือมันมีอีกเยอะมากกกกกกกกกกก บัยบายยยขอบคุณค้าาา

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก http://khianhin.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น